วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

ตะแกรงโยก โรงสีข้าว มันคือชีวิต ตอนที่4 : สวัสดีปีใหม่

สวัสดีปีใหม่ ปีแพะ 2558

ช่วงปีใหม่ ปีนี้ รู้สึกอากาศหนาวนานกว่าทุกปี หลังจากที่ผ่านหน้าฝนมา น้ำท่วมกันทุกปี บ้านช่างเมืองอยู่ในย่านที่เรียกว่า หัวทะเล เมือก่อน เป็นที่ฝังศพ ของทหารและ คนโบราณ มีลักษณะ เป็นแอ่งกระทะ ออกจากเขตเมือง มานิดหน่อย ประตูทางออกบริเวณนั้น เรียกว่า ประตูผี ชื่อดูน่ากลัว

เรืองราวมาจากคนโบราณที่เล่าต่อๆ กันมา ว่าประตูผี นี้คือประตูเมือง ที่ไว้สำหรับ นำศพ ทหาร หรือ ผู้คน ออกมา ฝังหรือเผาที่บริเวณนี้ หรือเรียก ว่าหัวทะเล แต่หัวทะเล ในปัจจุบันนี้ คล้ายๆว่าได้ย้ายไปอยู่ทางเหนือขึ้นไปอีก หรือ ใกล้ กับ บ้านดอนขวาง และใช้ชื่อเป็น ตำบล อย่างแท้จริง ส่วนหัวทะเล ดั้งเดิมนั้น ก็กลายเป็นเขตเมือง ที่ขยายออกมา ถนนหนทาง ผู้คนเยอะแยะ กว่าเมือก่อนมาก



อากาศที่หนาว ในช่วงปีใหม่ ปี 2558


บ้านช่างเมืองอยู่ตรงนั้น หัวทะเลเก่า คือเขตที่ น้ำท่วม ซ้ำซากเป็นอย่างมาก เรียกว่าท่วมกันทุกหน้าฝนและไม่เคยมี หน่วยงานราชการคนไหนลงมาช่วยดูแลอย่างจริงจัง ท่วมที ก็ต้องยกของขึ้นบนบ้าน หรือที่สูงอยู่ตลอด ช่วงหน้าฝนช่างเมือง จะมีงานทำตะแกรงอยู่บ้าง แต่ค่อนข้างลำบาก หากเกิดน้ำท่วมขึ้น


ตะแกรงโยกบางลูก ที่ลูกค้าได้นำมาซ่อม ถึงกับต้องยอมปล่อย ให้น้ำท่วมเลยก็มีบ้าง เครืองไม้เครื่องมือต่างๆ บางอย่างยกไม่ไหว ก็ต้องปล่อยให้น้ำมันท่วมไปเลย ก็มี แล้วมาคอยลุ้นเอาตอนหลังน้ำลด ว่าเครื่องมือ จะใช้ได้อีกไหม

ช่วงที่เข้าหน้าฝน นอกจากงานทำตะแกรงโยก โรงสีข้าว ของช่างเมือง แล้ว ช่างเมืองต้องมาคอยเอาเศษๆไม้ มาทำเป็นขาตั้ง เพื่อจะนำไปหนุน ข้าวของภายในบ้านต่างๆ เช่น ตู้เย็น ตู้โชว์ ตู้เสื้อผ้า หรือ ของต่างๆ ภายในบ้าน ต้องทำไว้รอเลย ฝนตกมาที ก็ต้องเตรียมเลย เป็นอะไรที่ลำบากมาก แต่ก็เป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆ มา จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่ช่างเมืองก็ทำงาน ได้เหมือนเดิม เพียงแต่ รอดูว่า หน้าฝนปีนี้ จะต้องเหนือยกันอีกไหม



ช่างเมืองไหว้ ศาลพระภูมิ เจ้าที่ ในช่วง วันปีใหม่ เป็นประจำทุกปี


สวัสดีปีใหม่ ปีแพะ ต้นปีนี้ อากาศดีเย็นสบาย ช่างเมือง เดินเจ็บๆ ขาบ้าง เกิดจากความหนาว จึงเป็นเหน็บชา จากที่ไม่ค่อยใส่เสื้อกันหนาว ปีนี้ช่างเมืองยังต้องใส่ เพื่อที่จะตื่นมาสู้กับงานต่อๆไป วันเวลาของช่างเมืองนั้น ดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่แท้จริงแล้ว ความโรยรา ของช่างเมือง นั้นกำลังจะมาเยือน แต่จิตใจ นั้น ยังยิ้มสู้อยู่อย่างสวยงาม..

วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ตะแกรงโยก โรงสีข้าว มันคือชีวิต ตอนที่3 : ช่างแห่งเมืองปากพนัง


ช่างเมืองเดิมเป็นคน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ชีวิตวัยเด็ก ก็เหมือนเด็กทั่วไป เรียนหนังสืออยู่ที่นั้นเมื่อเข้าช่วงวัยรุ่น ก็เริ่มที่จะหางานทำ โดยเป็นเด็กฝึกงานช่างไม้ เกี่ยวกับทำโรงสี ตอนนั้นช่างเมืองอายุแค่ 18-17 ด้วยความที่บ้านยากจน จึงต้องเข้าเมืองมาหางานเลี้ยงตัวเอง ด้วยความที่มีนิสัย ชอบท่องเที่ยว ชอบไปนู้นมานี้ ชอบความสวยงาม ของธรรมชาติ พอเป็นงานขึ้นมาบ้าง ก็เริ่มที่จะออกจาก จ.นครศรีธรรมราช ไปทำงานตาม จังหวัดอื่นๆ ทั่วทุกภาค ที่มีการทำนา ปลูกข้าว บางที่ก็นอนอยู่ที่ จังหวัดนั้น จะมีก้วนเพื่อนฝูงรุ่นเดียวกันที่ร่วมกันมา จาก ใต้ ตกเย็นก็จะเที่ยวเดินเล่น จีบสาวบ้าง ถ้ามีงานวัดด้วยจะยิ่งดี ก็เป็นที่ ที่พักผ่อนยามหลังเลิกงาน ของคนยุคนั้น




ตะแกรงโยก โรงสีข้าว ผลงานต่างๆมากมาย จากช่างเมือง



ช่างเมือง ยืนมองตะแกรงโยก โรงสีข้าว ที่จะนำไปติดตั้ง

จนวนเวียนไปมาหลายที่หลายจังหวัด จึงได้มาปักหลักอยู่ที่ โคราช ทำงานกลับ เถ่าแก่ ที่มาจาก ที่เดียวกัน จากทางใต้ ที่เปิดเป็น ร้านเครื่องจักรสำหรับการเกตร อยู่ที่ตัวเมืองโคราช ทำอยู่นานหลายปีจึงตัดสินใจที่จะออกมาทำเอง แต่ยยังรับงานจากทางร้านเดิม มาทำที่บ้าน มีอยู่หลายร้านที่จ้างช่างเมืองทำ ตะแกรงโยก สีข้าว อยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่รุ่นเถ่าแก่ คนเก่าๆ จนมาถึงรุ่นลูกในยุคปัจจุบันนี้


ช่างเมือง เริ่มต้นมาทำงานที่บ้าน โดยรับงานจากลูกค้าเอง และ รับจากร้านเถ่าแก่เดิม

จากวันนั้น วันที่ช่างเมือง ได้ตัดสินใจออกจาก บ้านเกิดตัวเอง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ก็ไม่มีวันที่ช่างเมืองได้กลับไปเหยียบบ้านเกิดของตัวเอง อีกเลย นับเป็นก้าวสำคัญมากๆ เมือตัดสินใจแล้ว จะต้องลุยกับงานที่ต้องเจอข้างหน้า แม้จะเสียน้ำตาบ้าง เมือยามที่คิดถึง แต่ก็จำเป็นต้องจากมา

ปัจจุบันช่างเมืองได้ภรรยาเป็นคนโคราช และได้ตั้งถิ่นฐานปักหลัก อยู่ที่โคราช มาเป็นเวลาหลายสิบปีโดยที่ไม่เคยกลับไปบ้านเกิดตัวเองเลย เป็นคนภาคใต้ ที่ไม่เคยพูดกลาง แม้คนอื่นๆ ที่จะมาฟังแล้วก็งงๆ จับใจความไม่ค่อยได้ แต่นั้นคือเสน่ห์ ที่แท้จริงกับความจริงใจ ที่จะมอบให้กับลูกค้า ที่มาสั่งทำตะแกรงโยก โรงสีข้าว ทุกคน ช่างเมืองทุ่มเททำงาน อย่างเต็มที่ ใส่ใจทุกรายละเอียด กับภาษาใต้ที่ฟังไม่ออกบ้าง และรอยยิ้ม ที่เป็นเอกลักษณ์ ช่างตะแกรงโยก จากเมืองนคร คือ ช่างเมือง โคราช

วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ตะแกรงโยก โรงสีข้าว มันคือชีวิต ตอนที่2 : ตำราที่ไร้คนอ่าน

จากตอนที่แล้ว ทุกๆเช้า ช่างเมือง จะลุกขึ้นมาทำ ตะแกรงโยกโรงสีข้าว ในตอนเช้าตรู่ หรือ เรียกได้ว่าเช้ามาก

บ่อยครั้งที่ต้องเร่งงาน หรือมีงานเข้ามา หลายๆ ลูกพร้อมกัน นั้นแปลว่าช่วงนั้น ช่างเมืองต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น ช่างเมือง ทำงานคนเดียวอยู่ที่บ้าน เคยมีคนมาฝึกหัดเป็นเด็ก ฝึกงานกับแก อยู่เรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะทำงานไม่ไหว ทนงานไม่ได้ เพราะแต่ละคน จะมาเพื่อเอาความรู้กลับไป จึงรีบทำรีบไป แต่ไม่มีใครได้สูตรการทำตะแกรงโยก จากช่างเมืองไปสักคน เพราะไม่มีความอดทน ทำงานจริงๆ ไม่ได้เป็นเพราะช่างเมืองไม่บอกไม่สอน หรือ ไม่ยอมถ่ายทอดความรู้ แต่งานมันต้องใช้ความละเอียด ที่ต้องทำไปเรื่อยๆ ถึงจะรู้เอง หรือต้องทำด้วยใจ

              ช่างเมือง กับ ตะแกรงโยก โรงสีข้าว ขนาดจัมโบ้ โรงสีเบญจวรรณ โคราช อ.กุดจิก


 มีเด็กๆ หลายคนผ่านเข้ามา บางคนตกงาน บางคนไม่มีอะไรทำ บางคนอยากที่จะเป็นช่างแบบช่างเมือง บางคนแม่เอามาฝากเพราะสมองไม่ค่อยดี อยู่บ้านก็สร้างความรำคาญ แต่ละคนล้วน มาทำงานได้ไม่เกินอาทิตย์ ดีที่สุดก็มีบ้างคือ หนึ่งเดือน หรืิอ เดือนกว่าๆ ไปเพราะ ช่างเมือง ให้ทำอย่างเดียวตามที่บอก
แกไม่ได้บอกว่า ทำตรงนี้เพราะอะไร แล้วจะมีผลต่ออะไร จะเกิดอะไรขึ้น ทำให้เด็กฝึกงานที่มาทำ งงไปตามๆ กัน สมุดตำราของช่างเมืองเล่มใหญ่ หนามาก น้อยคนจะได้เห็น ตำรานี้ เล่มใหญ่ก็จริง แต่เปิดดูไม่มีอะไรเลย มีแต่รูป กับขนาด หรือมีแค่ ข้อความเขียนแค่บางหน้า จริงๆ แล้วถ้าใครได้ไป ก็คิดว่าคงจะทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะจับต้นชนปลาย ไม่ถูกแน่ๆ มีแต่ช่างเมืองเท่านั้น ที่เวลาประสบปัญหา จากการทำงานต่างๆ แกจะไปเปิด หนังสือตำราเล่มนี้ ดู แล้วนั่งคิดอะไรของแกไปสักพัก

                     สถานที่ทำงาน บ้าน ช่างเมือง ตะแกรงโยก โรงสีข้าว ขนาดจัมโบ้

ถึงทุกวันนี้ ช่างเมืองก็ยัง ทำงานอยู่คนเดียว แกอายุมากแล้ว คิดว่าคงไม่มีใคร มาสืบความรู้การทำตะแกรงโยก โรงสีข้าว แล้วละ แต่แกก็ยังรับทำ รับสร้างตะแกรงโยก อยู่ตลอด หากมีงานไหน ที่ต้องใช้แรงงานมา ช่วยยก หยิบจับ แกก็จะไปจ้างมา เป็นรายวัน ก็คนแถวนั้นละ บางคนก็ตกงาน ก็มาช่วย


วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ตะแกรงโยก โรงสีข้าว มันคือชีวิต ตอนที่1 : ตื่นก่อนตะวัน

ตะแกรงโยก โรงสีข้าว มันคือชีวิต ตอนที่1



ช่างเมือง ตะแกรงโยก โรงสีข้าว




ทุกๆวันช่างเมืองจะตื่นแต่เช้า มานั่งที่ ตะแกรงโยก แล้วจะคอยดูผลงานของตัวเอง งานแต่ละงานของช่างเมือง จะมีทั้งงานซ่อมแทรม งานสร้างใหม่ เล็กบ้างใหญ่ บ้าง ตามแต่ลูกค้าจะมาจ้าง
ช่างเมืองจะนั่ง พร้อมจิบกาแฟ ที่ชงเอง กินหมดสักพัก ก็จะลงมือทำงานเลย แต่เช้าตรู่ เสียงก็จะดัง ก๊อกๆแก๊ก ใครที่ชอบตื่นสายๆ แถวๆนั้น ก็จะมีเคืองช่างเมืองอยู่เหมือนกัน บางวัน แกเล่น ใสกบไฟฟ้า แต่เช้าเลย คนระแวกนั้น จะเป็นที่รู้กัน คุ้นหู จนกลายเป็นเรื่องชินชา วันไหนที่ไม่ได้ยินเสียงเหล่าน นี้ กับจะเป็นเรื่องแปลกเสียด้วยซ้ำ
พอสายๆ ช่างเมืองก็จะหิวข้าวและหาข้าวกิน บางวันโชคดี ภรรยาก็ทำไว้ให้ บางวัน ก็ต้องลงมือทำเอง อาหารง่ายๆ ในตอนเช้า ของช่างเมือง หนีไม่พ้น แกงกระทิ ที่อาจเหลือค้าง มาจาก มื้อเย็นของวันก่อน
แกจะนำไปอุ่น แต่แปลกมาก อาหารที่เหลือเหล่านี้ ทำไม มันอร่อยจังนะ อุ่นเสร็จปุ๊ป กินกันแบบ เอร็ดอร่อย นั้นเป็นอาหารมื้อเช้า สับเปลี่ยนกันไป แล้วแต่ว่าจะมีอะไรเหลือ กินเพื่อให้เป็นเรี่ยวแรง ที่จะต้องทำงานอย่างหนัก ในทั้งวัน
ช่างเมือง จะใช้เครื่องทุ่นแรงน้อยมาก ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หรือแกอาจขี้เหนียว ไม่กล้าที่จะซื้อ เพราะกลัวแพง แต่นั้นก็เป็นสเน่ห์ อย่างนึงของผลงาน ที่ทำออกมา จะมาจากฝีมือ ของช่างเมืองอย่างแท้จริง ตั้งแต่การเริ่มตัดไม้ เริ่มทำคาน  ขึ้นโครง วัดระดับน้ำ  ดัดไปดัดมา  ตัดลูกปลา  ดัดเหล็ก โอ้ย ขั้นตอนมันเยอะจริงๆ แต่ไม่ค่อยเห็นเครื่องมือ แกเลย มีแค่ เลื่อยไม้ กับ สิ่ว และก็กบใสไม้ เท่านั้นเอง ไม่ว่าจะเป็น ตะแกรงโยก ขนาดเล็ก หรือใหญ่ ก็เห็นมีเท่านี้

                                           โครง ตะแกรงโยก โรงสีข้าว


ไม่ว่าจะเป็นงานขนาดเล็กๆ จนถึงงานที่ใหญ่ๆ ช่างเมืองไม่เคยหวั่น ไม่เคยท้อ มีแต่ยิ้มสู้ และทำ และก็ทำ แกทำแบบนี้มาทั้งชีวิต เพื่อให้ลูกค้าได้ ตะแกรงโยก ที่ดีที่สุด เอาไปใช้งาน กับโรงสีข้าว และ ไม่เคยเห็นลูกค้าสักคน ที่จะมาตำหนิ งานของช่างเมือง ถามว่าเคยมีความผิดผลาดไหม แน่นอน ม้ันต้องเกิดขึ้นกับงานทุกงาน คนทุกคน แต่ช่างเมือง ไม่เคย หนีปัญหา สักงานเดียว มีแต่ จะบริการ ให้ถึงที่สุด เท่าที่แกจะทำได้ ตรวจเช็ค หาข้อมูลแก้ใขปัญหาต่างๆ ก็อย่างที่บอก ต้องให้ลูกค้า ได้ของที่ดี ได้ผลงานที่ดี ไปใช้งาน

                                          ตะแกรงโยก โรงสีข้าว ขนาดจัมโบ้

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ตะแกรงโยก โรงสีข้าว จากฝีมือช่างเมือง โคราช

ตะแกรงโยก โรงสีข้าว จากฝีมือช่างเมือง หัวทะเล โคราช ฝีมือสุดยอด ปากต่อปาก มาแสนนาน ร้านใหญ่ๆ ในตัวเมือง มาจ้างแกทำและกินหัวคิว ไปเยอะต่อเยอ ใครที่ได้เข้ามาดู นายทุน เจ้าของโรงสีต่างๆ จะมัวมาซื้อของแพงๆ กันทำไม มาคุยกับช่างเมืองได้เลย รับประกัน ได้ของดี ราคาถูก กว่าห้างร้านต่างๆแน่นอน สบายใจ รับประกัน สีออก สีดี อย่างแน่นอน

ติดต่อสอบถาม ได้ 084 4701249 ช่างเมือง หัวทะเล โคราช ประสบการณ์ กว่าทั้งชีวิต 50 กว่าปี








 
ติดต่อสอบถาม ได้ 084 4701249 ช่างเมือง หัวทะเล โคราช ประสบการณ์ กว่าทั้งชีวิต 50 กว่าปี