วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ตะแกรงโยก โรงสีข้าว มันคือชีวิต ตอนที่2 : ตำราที่ไร้คนอ่าน

จากตอนที่แล้ว ทุกๆเช้า ช่างเมือง จะลุกขึ้นมาทำ ตะแกรงโยกโรงสีข้าว ในตอนเช้าตรู่ หรือ เรียกได้ว่าเช้ามาก

บ่อยครั้งที่ต้องเร่งงาน หรือมีงานเข้ามา หลายๆ ลูกพร้อมกัน นั้นแปลว่าช่วงนั้น ช่างเมืองต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น ช่างเมือง ทำงานคนเดียวอยู่ที่บ้าน เคยมีคนมาฝึกหัดเป็นเด็ก ฝึกงานกับแก อยู่เรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะทำงานไม่ไหว ทนงานไม่ได้ เพราะแต่ละคน จะมาเพื่อเอาความรู้กลับไป จึงรีบทำรีบไป แต่ไม่มีใครได้สูตรการทำตะแกรงโยก จากช่างเมืองไปสักคน เพราะไม่มีความอดทน ทำงานจริงๆ ไม่ได้เป็นเพราะช่างเมืองไม่บอกไม่สอน หรือ ไม่ยอมถ่ายทอดความรู้ แต่งานมันต้องใช้ความละเอียด ที่ต้องทำไปเรื่อยๆ ถึงจะรู้เอง หรือต้องทำด้วยใจ

              ช่างเมือง กับ ตะแกรงโยก โรงสีข้าว ขนาดจัมโบ้ โรงสีเบญจวรรณ โคราช อ.กุดจิก


 มีเด็กๆ หลายคนผ่านเข้ามา บางคนตกงาน บางคนไม่มีอะไรทำ บางคนอยากที่จะเป็นช่างแบบช่างเมือง บางคนแม่เอามาฝากเพราะสมองไม่ค่อยดี อยู่บ้านก็สร้างความรำคาญ แต่ละคนล้วน มาทำงานได้ไม่เกินอาทิตย์ ดีที่สุดก็มีบ้างคือ หนึ่งเดือน หรืิอ เดือนกว่าๆ ไปเพราะ ช่างเมือง ให้ทำอย่างเดียวตามที่บอก
แกไม่ได้บอกว่า ทำตรงนี้เพราะอะไร แล้วจะมีผลต่ออะไร จะเกิดอะไรขึ้น ทำให้เด็กฝึกงานที่มาทำ งงไปตามๆ กัน สมุดตำราของช่างเมืองเล่มใหญ่ หนามาก น้อยคนจะได้เห็น ตำรานี้ เล่มใหญ่ก็จริง แต่เปิดดูไม่มีอะไรเลย มีแต่รูป กับขนาด หรือมีแค่ ข้อความเขียนแค่บางหน้า จริงๆ แล้วถ้าใครได้ไป ก็คิดว่าคงจะทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะจับต้นชนปลาย ไม่ถูกแน่ๆ มีแต่ช่างเมืองเท่านั้น ที่เวลาประสบปัญหา จากการทำงานต่างๆ แกจะไปเปิด หนังสือตำราเล่มนี้ ดู แล้วนั่งคิดอะไรของแกไปสักพัก

                     สถานที่ทำงาน บ้าน ช่างเมือง ตะแกรงโยก โรงสีข้าว ขนาดจัมโบ้

ถึงทุกวันนี้ ช่างเมืองก็ยัง ทำงานอยู่คนเดียว แกอายุมากแล้ว คิดว่าคงไม่มีใคร มาสืบความรู้การทำตะแกรงโยก โรงสีข้าว แล้วละ แต่แกก็ยังรับทำ รับสร้างตะแกรงโยก อยู่ตลอด หากมีงานไหน ที่ต้องใช้แรงงานมา ช่วยยก หยิบจับ แกก็จะไปจ้างมา เป็นรายวัน ก็คนแถวนั้นละ บางคนก็ตกงาน ก็มาช่วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น